"Ghent"

29/03/2016
คืนนี้นอน Ghent

Ghent

หลังจากขึ้นรถไฟจาก Ootsen มาถึง Gent-Sint-Pieters station. ก็เดินเข้า centrum จะเดินตามป้ายบอกหรือเปิดGPS ก็ตามสบาย แต่เราไม่มีอินเตอร์เน็ตติดตัว เราใช้วิธี save ตำแหน่งที่อยากไปตั้งแต่ที่บ้าน พอมาถึงที่นี้ก็เปิดGPS แล้วพยายามเดินเข้าไปหาดาวที่markไว้ เดียวก็ถึงเอง สบายๆชิวๆ

Ghent, Gent หรือ เกนต์ น่าจะเป็นเมืองที่เราสามารถเล่าเรื่องเล่าประวัติศาสตร์ได้มากที่สุด และเราคิดว่าเราenjoy also happy ที่นี้มาที่สุด เพราะเราได้ไกด์ดี ไกด์ที่นี้ไม่ได้หามาจากไหน เขาคือคนที่เรามาพักด้วย นอนที่บ้านเขาหนึ่งคืน ไม่เสียเงิน ทั้งได้เพื่อนเดินเล่น พูดคุยแชร์เรื่องเล่ากัน ซึ่งมาจากการใช้ CS หรือ couchsurfing นั้นเอง เพราะฉะนั้นในโพสต์นี้ ถ้าเราพูดถึงโฮส ก็หมายถึง โฮสจาก CS นะ

หลักๆของเว็บนี้ คือ Host หรือ เจ้าบ้านที่พร้อมจะแชร์โซฟา ที่พักให้นักท่องเที่ยวมาพักค้างคืน ถ้าเขาว่างก็จะพา sightseeing, have dinner together, chatting, cooking. hang out around, give you some information, give you a good advice for travelling, every kind of spend time together much as much we can. เท่าที่ใช้มาถึงว่าดีมาก ชอบเลย เจอแต่คนดีๆ เจ๋งๆ คลูๆ ที่สำคัญได้เพื่อนแบบ local people (หลายคนคงงงว่าจะเขียนเป็นภาษาอังกฤษทำไม เพราะ อยากเขียน ไปแปลเองหายดี อย่างเช่น กินข้าวเย็น ทานมื้อเย็น อันไหนมันเหมาะกว่ากันที่จะใช้ก็ไม่รู้ ใช้ have dinner จบ 5555)

ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 ของเราสำหรับการเป็นcouch super save and safe
ส่งเขาความไปถามหลายคนมาก แต่คนนี้ส่งไปแค่หนึ่งคืนก็ตอบกลับมา ตอนแรกเราจะมาที่นี้วันจันทร์ แต่เขาไม่ว่าง เราเลยมาเพื่อค้างคืนวันอังคาร

เปิดรูปแรก ด้วยบรรยากาศยามเย็น เดินเล่นกับโฮส คนขวามือคะ สูง หล่อ(อยู่หน่า) อัธยาศัยดี
มาถึงตัวเมืองGhent ประมาณห้าโมงเย็น แต่นัดโฮสไว้หลังหนึ่งทุ่ม เราเลยเดินเล่นรอบเอง ช่วงนี้เป็นช่วง time saving แล้ว คือ ปรับเวลาให้เร็วขึ้นหนึ่งชั่วโมง จะปรับช่วงbeginning of spring (อเมริกาก็เป็น ไม่รู้ประเทศไหนที่เป็นอีก แล้วปรับให้ช้าลงหนึ่งชั่วโมงประมาณช่วงหลังHalloween) ดวงอาทิตย์ตกช้ามา สองทุ่มกว่ายังไม่มืดเลย

เป็นสถานีแรกที่เราเห็นมีรูปวาดบนผนัง Gent-Sint-Pieters
ดูความเป็นรถถีบของที่นี้ มีแต่จักรยาน ชอบๆ แบบราเล่ย์ทั้งนั้น รอบลานวงกลม เป็นแบบนี้ทุกด้านเลย
 
วันนั้นอากาศดี แดดออก ที่เห็นนั่งๆกัน เห็นแล้วให้อารมณ์แบบเหมือนเรานั่งเม้ามอยกับเพื่อนม.ปลาย
จุดขายวิวของเมืองเกนต์ อาคารด้านซ้ายมือเป็นพวกร้านอาหาร ด้านขวาโรงแรม ร้านอาหารด้วย
 
     
tram, city hall, clock tower
  
ศาลาทรงเหลี่ยมๆพึ่งสร้างใหม่ โฮสบอก ตอนแรกชาวเมืองต่อต้าน แต่สุดท้าย ก็สร้างจนเสร็จ
     

เด็กติสท์ขอพื้นที่ให้ศิลปะในหัวใจ เขาน่าจะอนุญาติให้กราฟฟิตี้ซอยนี้ได้ทั้งซอย
 ในที่สุดเวลาก็ล่วงเลยมาถึงทุ่มกว่าๆ เลยมานั่งรอโฮสที่ม้านั่งยาวข้างMCDonaldตามที่นัดกันไว้ พร้อมส่งข้อความไปหา ไอ้เราก็ตื่นเต้น จำหน้าจากรูปโปรไฟล์ของเขาไม่ได้ พยายามมองหาคนที่เหมือนจะมองหาคนเหมือนกัน แล้วดันมีหลายคนโดยนี้ที่ทำท่าเหมือนมองหาคน 5555 ในที่สุดก็ได้ปะกัน shake hand and introduce myself เล็กน้อย คำถามที่เราถามเขาคำแรกคือ "Would you pronounce your name? " กลัวเรียกชื่อเขาผิด 555 หลังจากนั้นเราก็บอกโฮสว่า เราอยากถ่ายรูปตอนเย็นๆ พระอาทิตย์ลงต่ำ จนถึงตอนค่ำ จนถึงอาคารเปิดไฟ (เหตุผลที่เลือกค้างคืนที่นี้ เพราะอยากได้รูปถ่ายตอนกลางคืน แล้วไม่อยากกลับบ้านดึก สองทุ่มก็ยังไม่มืดสนิทคะ) เขาก็บอกดีเลย เขาก็พึ่งเสร็จงาน เป็นโอกาสดีได้เดินเล่น แล้วเราก็เริ่มเดินกัน ที่แรกที่เขาพาไป เป็นที่โปรดของโฮส เดินออกมาจากcretrumนิดเดียว แต่เงียบ ไม่ค่อยมีคน ต้นไม้ข้างคลอง ลมโบกเบาๆ ชิวๆ 
อารมณ์แบบประตูท่าแพ แต่นี้เหลือแต่ป้อม กำแพงไปหมดแล่ว
หยุดดูร้านโคมไฟกัน เจ๋งดี
 

neighborhood นี้เคยเป็นที่อาศัยของผู้หญิงล้วน มีกฎของผู้อาศัย โฮสเอารูปให้ดู
แต่งตัวเหมือนแม่ชีที่โบสถ์คริสต์ แต่ไม่ใช้แม่ชี  แต่ตอนนี้ไม่ใช้เเล้ว
 
เข้าใจคำว่า romantic มาแทนที
 เดินไปเรื่อยๆ โฮสยังงงเองว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ไหน5555 เลยใช้วิธีเดินตามข้างคลองจนกลับมาแถวที่เดิมได้ แล้วเขาก็ถามเราว่าหิวละยัง จะกินร้านหรือ หาอะไรง่ายๆไปกินที่บ้าน เราเลยบอกโฮสว่าอยากกินที่ร้าน(มีคนแนะนำ สั่งอาหารให้ สบายหน่อย) โฮสก็ถามอีกว่าจะเอาร้านแบบจ่ายได้เต็มที่ หรือเอาร้านแบบงบจำกัด(เขาก็เข้าใจเรา นักท่องเที่ยวกระเป๋าแบน แฟนไม่มี) แน่นอนเราเลือกอย่างหลัง thumb up!

เราก็เดินกันต่อจนมาถึงโซนที่มีแต่ร้านอาหาร แล้วก็มาถึง ' URFA ' ร้านอาหารตรุกี พอเข้าไปก็เลือกที่นั่งกันเลย จานทานเล่นเป็นมะกอกดองกับอะไรไม่รู้เค็มๆ น่าจะชีส พอกินด้วยกันแล้วอร่อยดี พนักงานที่นี้พูดอังกฤษกันได้ เป็นห่วงเป็นใยเรา เพราะมีจังหวะหนึ่งเราชิมพริกปน พนักงานบอกมันเผ็ดนะ เราเลยหันไปยิ้มให้เเล้วบอกว่า เราชอบเผ็ดๆ โฮสก็หัวเราะ แล้วบอกว่า เดียวเธอต้องใส่พริกเยอะในจานของเธอแน่เลย 555

เมนูของร้านนี้มีภาพประกอบ แต่ไม่มีภาษาอังกฤษกำกับ โฮสก็แนะนำอันไหนที่เขาชอบสั่ง เราเลยสั่ง urfa 1 พิซซ่าตรุกี ใส่เนื้อแกะบดปรุงรส อร่อยดี ส่วนโฮสสั่งเนื้อแกะบดบาร์บีคิว มาพร้อมสลัดผัก ข้าวกับแฮม มันบด อร่อยเหมือนกัน(ได้อานิสงส์ ชิมของเขาด้วย) ทานเสร็จก็โบกมือลาเด็กน้อยโต้ะข้างๆ แล้วออกมาผจญอากาศหนาวนอกร้านอีกครั้ง
URFA1 ยัดจนหมด กัสขนาด(อิ่มมาก) 8.5 euro
กลับมาถึงบ้านเขา อยู่กลางตัวเมืองเลย ชั้นล่างสุดเป็นร้านขายเสื้อยืดแนวๆ เขาเช่าชั้นสองถึงชั้นสี่ โฮสบอก วันนี้เบลเยี่ยมมีแข่งฟุตบอล เดี่ยวบอลจบออกไปหาเบียร์กัน เราเลยขอตัวออกมาถ่ายรูปอีก แล้วไปเจอกันที่เดิม เป้าหมายคือภาพเงาสะท้อนในคลอง
    
จะเห็นว่าภาพถ่ายตอนกลางคืนเราชอบมีขอบอะไรไม่รู้เข้ามาเยอะ
เพราะเราไม่มีขาตั้งกล้อง ก็วางพื้น วางบนเสา วางบนถังขยะไป แต่ได้ภาพที่พอใช้ได้อยู่หน้อ
เบียร์ดี บอกต่อ

แล้วเราก็มานั่งฟังเพลงJazz คุยกันต่อที่บาร์ใกล้ๆบ้าน เขาชอบเบียร์ PIRAAT โจรสลัดนั้นแหละ เราก็สั่งตาม คุยๆกันไป คุยหลายเรื่องมาก เขาก็หาเรื่องมาชวนคุย คำถามที่เขาถามเราบ่อยที่สุดคือ คุณรู้ความหมายอันนี้ใช่ไหม คือค่อยอธิบาย หาศัพท์มาแปลอังกฤษเป็นอังกฤษให้ตลอด

กลับมาถึงบ้านก็คุยกันต่อเรื่องถ่ายรูป CSคนก่อนหน้าเรา ผู้ชายมาจากเกาหลี ปั่นจักรยานมาเที่ยวเรื่อยๆจากฝรั่งเศส แล้วเขาเองก็อยากปั่นจักนยานทั่วยุโรปมัง มีแค่โน๊ตบุ๊คเขาก็ทำงานได้ทุกที่ โฮสคนนี้เจ๋งดี ชีวิตดีดี้(เราก็อยากทำแบบนั้นบ้าง) หลังจากนั้นก็จัดที่นอน หาหมอน หาผ้าห่มให้ แล้วแยกย้ายกันเข้านอน

ปิดท้ายด้วยรูปหอระฆังที่กวนใจที่สุด ตี่อยู่นั้นนะ ทุกครึ่งชั่วโมง ทุกหนึ่งชั่วโมง ช่วงตีหนึ่งตีทุกสิบนาทีจ้า
จะหลับๆ แต่เหมือนได้ยินเสียงระฆัง แต่เป็นตึกสูงเดียวที่มีไฟส่องตอนกลางคืน สวยจริงๆ
ส่วนข้างหลังมืดๆนั้นโบสถ์ ที่นี้โบสถ์เยอะมาก นิกายโรมันคาทอลิก



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

4 ชั่วโมงกว่า ไม่มีหลับกับ Bernina Express

ไป-กลับ Grindelwald - First

ไม่ได้มาเล่นๆ Neuchâtel